ทำความรู้จัก น้ำนมแม่ 3 ระยะ คืออะไร

นมแม่ เป็นแหล่งอาหารและยาที่อุดมด้วยคุณประโยชน์ต่อลูกน้อย ไม่มีนมอะไรที่จะเทียบได้ น้ำนมแม่จะมีคุณค่าทางอาหารสูงมากแล้ว ยังมีความจำเป็นต่อร่างกายและสภาพแวดล้อมของทารก สารอาหารในน้ำนมแม่จะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลาเพื่อให้สอดคล้องกับพัฒนาการของลูกน้อย

สารอาหารในน้ำนมแม่ 

สารอาหารในน้ำนมแม่มีการเปลี่ยนแปลงตามระยะเวลาหลังการคลอดเพื่อให้เหมาะสมกับตัวลูกน้อย ผ่านกระบวนการสร้างน้ำนมในร่างกายของแม่ที่เกิดจากการหลั่งฮอร์โมนกระตุ้นโดยแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ 

ระยะที่ 1 : ระยะหัวน้ำนม หรือ Colostrums 

น้ำนมช่วงนี้จะมีสีเหลือง โดยน้ำนมเหลืองจะถูกสร้างในช่วง 1 – 3 วันแรกหลังคลอด ถือเป็นน้ำนมที่ดีที่สุด มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของลำไส้เพื่อช่วยขับถ่ายขี้เทาออก ป้องกันอาการตัวเหลืองที่อาจเกิดขึ้นและมีภูมิคุ้มกันที่สำคัญของลูกน้อย อาทิเช่น อิมมูโนโกลบูลิน A (IgA) แลคโตเฟอริน และเม็ดเลือดขาว ช่วยเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย ป้องกันการติดเชื้อของลูกตั้งแต่แรกเกิด  

ระยะที่ 2 : ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน หรือ Transitional milk 

เป็นช่วงที่น้ำนมจะเริ่มมีสีขาวขึ้น โดยจะถูกสร้างในช่วงวันที่ 4 จนถึง 2 สัปดาห์หลังคลอด ระดับของฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจะลดต่ำลงทันที ทำให้โปรแลกตินซึ่งมีหน้าที่กระตุ้นให้เกิดการสร้างและหลั่งน้ำนมออกฤทธิ์ได้เต็มที่ ควรกระตุ้นให้ลูกกินนมจากอกทุก 2 – 3 ชั่วโมง น้ำนมในระยะนี้จะมีไขมันมากขึ้นและประกอบไปด้วยสารอาหารที่หลากหลาย  

ระยะที่ 3 : ระยะน้ำนมแม่ หรือ Mature milk 

น้ำนมในระยะนี้จะถูกสร้างใน 10 วันหลังคลอด เป็นน้ำนมสมบูรณ์ที่อุดมด้วยซึ่งช่วยส่งเสริมการเจริญเติบโตของลูกน้อยให้สมบูรณ์แข็งแรง มีสารอาหารที่จำเป็น ได้แก่ 

1.โปรตีน ที่มีส่วนช่วยในการยับยั้งจากเจริญเติบโตของเชื้อโรคบางชนิด เพิ่มภูมิต้านทาน และเอนไซม์ที่สามารถทำลายผนังเซลล์ของแบคทีเรียได้ 

2.ไขมัน ที่เป็นกรดไขมันที่จำเป็นต่อร่างกาย ได้แก่ DHA (Docosahexaenoic Acid) และ AA (Arachidonic Acid) ที่มีความสำคัญต่อการพัฒนาระบบประสาทและการมองเห็น 

3.น้ำตาลแลคโตส ในนมแม่มีโอลิโกแซคคาไรด์หรือคาร์โบไฮเดรตสายสั้น (Human Milk Oligosaccharides หรือ HMOs) มากกว่า 200 ชนิด ซึ่งมีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตของจุลินทรีย์และแบคทีเรียที่ช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันได้ 

4.วิตามิน และแร่ธาตุนานาชนิด มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตได้แก่ A, B1, B2, B6, B12, C, D, E, K และแร่ธาตุซึ่งได้แก่ เหล็ก แคลเซียม ไอโอดีน เป็นต้น 

น้ำนมแม่นั้นมีประโยชน์มากต่อพัฒนาการของลูกน้อย เพราะอุดมไปด้วยวิตามิน สารอาหารต่างๆ ซึ่งทางองค์การอนามัยโลก (WHO) และยูนิเซฟ แนะนำว่าลูกควรได้กินนมแม่อย่างเดียว ตั้งแต่แรกเกิดถึง 6 เดือน และควรกินต่อเนื่องไปจนลูกอายุ 2 ปี หรือนานกว่านั้น