ขั้นตอนของการก่อนสร้างบ้าน การถมที่ดิน ถือเป็นหนึ่งในขั้นตอนที่ต้องใช้ความละเอียดอ่อน และความเข้าใจในการทำงาน เพราะมีปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ที่ต้องคำนึง ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องชนิดของดินที่นำมาถม และยังต้องคำนึงถึง ราคาถมที่ดิน ในแต่ละครั้งอีกด้วย เพราะอย่างที่ทุกคนทราบว่าการถมที่ดินเพื่อปรับระดับพื้นที่ในก่อสร้าง ถือว่าเป็นขั้นตอนที่มีความสำคัญที่ส่งผลกระทบไปยังความปลอดภัยต่าง ๆ ในการใช้ชีวิต จึงทำให้ ราคาถมที่ดิน จึงเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนคิดจะสร้างบ้านต้องคิดหนัก เพราะสำหรับการคิดค่าใช้จ่ายของผู้รับเหมาแต่ละเจ้า ที่รับถมที่ดินนั้น จะมีราคาที่แตกต่างกันออกไป โดยที่วันนี้เราจึงได้นำเอาวิธีคำนวณแบบง่าย ๆ มาให้ลองได้ศึกษากัน
การคิดราคาถมที่ดิน
ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่ผู้รับเหมาแต่ละคน จะคิดราคาถมที่ดิน ที่แตกต่างกันออกไป โดยที่จะต้องคำนวณถึงค่าใช้จ่ายส่วนต่าง ที่มีความจำเป็นที่แตกต่างกันออกไปของแต่ละบริษัท โดยที่บางรายคิดเป็นคันรถ บางรายคิดแบบวัดหน้างาน หรือที่หลายคนรู้จัก และมักได้ยินกันว่า เป็นคิว (คิวบิกเมตร) ซึ่งส่วนใหญ่จะเหมารวมค่าบดอัดไปด้วย โดยที่ตองนี้ผู้จ้างจำเป็นที่จะต้องเปรียบเทียบดูเองว่า ระหว่างการใช้งาน ที่จะคิดเป็นคันรถ หรือคิดเป็นคิว การเลือกใช้งานรูปแบบไหน จะให้ความคุ้มค่ามากกว่ากัน โดยที่สามารถเริ่มจากการตรวจสอบขนาดที่ดินของเราก่อน แปลงหน่วยที่ดินจาก ตารางวาให้เป็นตารางเมตร ให้เรียบร้อยก่อน โดยใช้ 4 เป็นตัวคูณกับตารางวา
- ขนาดที่ดิน 100 ตารางวา : 100 x 4 = 400 ตารางเมตร
- จากนั้นถ้าต้องการถมดินสูง 1 เมตร ก็นำขนาดที่ดินตารางเมตร x ความสูง ก็จะได้ปริมาณดินเป็นหน่วยคิว
- ต้องการถมสูง 1 เมตร : 1 x 400 = 400 คิว
- เผื่อค่าบดอัดดินที่จะยุบตัวลงไปด้วยประมาณ20% – 30% หรือประมาณ 80 คิว ก็จะได้ปริมาณดินที่ต้องใช้ถม
- เผื่อบดอัดด้วยรถแทร็กเตอร์ประมาณ 80 คิว : 400 + 80 = 480 คิว
ปัจจัยต่าง ๆ ที่ควรคำนึงถึง
- บริเวณพื้นที่นั้นมีน้ำท่วมรึเปล่า ท่วมสูงระดับไหน
- ระดับท่อระบายน้ำและบ่อพักสูงแค่ไหน สามารถสอบถามหน่วยงานราชการที่รับผิดชอบได้
- ระดับถนนหน้าบ้านและพื้นที่ข้างเคียง ปัจจุบันระดับถนนสูงเท่าไหร่
- ถ้าพื้นที่มีบ้านเก่า ควรรื้อออกให้หมดจนถึงชั้นราก เหลือไว้เพียงเสาเข็มเท่านั้น
- บ้านที่สร้างบนน้ำ บ่อ บึง ควรถมดินไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ เพื่อกันไม่ให้ดินทรุดตัวอย่างรวดเร็ว
ประเภทของดินที่ใช้ในการถมที่
ดินถมทั่วไป : ดินชนิดแรก ที่มักจะได้รับความนิยม ในการนำเอามาใช้เพื่อถมที่ดิน เพราะเป็นดินที่มีราคาที่ค่อนข้างถูก สามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้เยอะ เนื้อดินแน่น แต่ดินมีลักษณะสีจาง มีความอุดมสมบูรณ์น้อย ไม่แนะนำให้มาใช้ปลูกต้นไม้
ดินดานหรือซีแล็ค : สำหรับดินชนิดนี้ ความพิเศษของมันก็คือจะเป็นดินแห้ง ที่สามารถนำเอามาใช้เพื่อการปลูกสร้างได้ทันที สามารถนำเอามาบดอัดได้ดี เหมาะสำหรับการใช้ถมทำพื้นที่ถนน หรือ ที่ดินริมน้ำ
ดินลูกรัง : ดินชนิดดังกล่าว เป็นดินที่เหมาะกับการใช้งานแค่บางประเภท โดยที่ดินชนิดนี้สามารถนำเอามาบดอัดได้ดี ไม่เหมาะสำหรับปลูกต้นไม้ ควรไปถมเป็นบริเวณลานจอดรถจะดีกว่า
ดินทราย : ดินชนิดถัดมา ถือว่าเป็นดินที่มีลักษณะเด่นเฉพาะตัว โดยที่จะเป็นดินที่ไม่อุ้มน้ำ ง่ายต่อการกัดกร่อน เมื่อนำมาถมวนต้องบดอัดอย่างดี และมีการป้องกันดินไหล เพื่อที่จะไม่ส่งผลต่อการใช้งานภายในอนาคต ที่ส่งผลถึงความปลอดภัย ซึ่งดินทรายถือว่าเป็นดินชนิดที่มีราคาถูก โครงการหมู่บ้านจัดสรรต่าง ๆ จึงนิยมนำมาใช้ถมกัน
หน้าดิน : สำหรับดินชนิดสุดท้าย นั่นก็คือหน้าดิน ดินที่มีลักษณะร่วนพรุน เนื้อดินค่อนข้างละเอียด เป็นดินที่มีการระบายน้ำได้ดี เหมาะสำหรับถมในพื้นที่ทำสวน หรือสนามหญ้า
